Smart Farm Device

Eazy Farm

คืออุปกรณ์ตรวจวัดสภาพแวดล้อมในแปลงเกษตรพร้อมทั้งระบบควบคุมเฉพาะในการจัดการ ที่เกิดจากแนวคิดการทำการเกษตรแม่นยำ โดยทีมวิศวกร บริษัท อีซี่ฟาร์ม จำกัด เพื่อเป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการแปลงหรือในฟาร์ม โดยผ่านระบบการจัดการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต สามารถตรวจสอบและทำการควบคุมได้ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน แทปเล็ท หรือคอมพิวเตอร์ในทุกที่ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้าถึง

ซึ่งระบบของ Eazy Farm จะมีด้วยกัน 3 รูปแบบในการบริหารจัดการฟาร์ม คือ

1.ระบบแปลงเปิดหรือในพื้นที่โล่งซึ่งส่วนใหญ่ใช้บริหารจัดการเรื่องน้ำเรื่องปุ๋ย และตรวจวัดสภาพแวดล้อมของลม ฝน อากาศ แสงแดด และดิน  เช่นการนำเอาค่าความชื้นในดินมากำหนดการเปิดปิดระบบน้ำที่จ่ายในแปลงแบบแม่นยำ

2.ระบบโรงเรือน ซึ่งจะมีทั้งแบบเปิดและแบบปิด โดยการทำเกษตรแบบโรงเรือนส่วนมากจะบริหารจัดการเรื่องแสงแดด อุณหภูมิ ความชื้น น้ำ การจัดการเรื่องปุ๋ย โดยประมวลผลจากการวัดค่าต่างๆของตัวเซนเซอร์มากำหนดปัจจัยดังกล่าว เช่นนำค่าความชื้นในอากาศมากำหนดการพ่นหมอกเพื่อควบคุมความชื้นในโรงเรือน นำค่าอุณหภูมิที่วัดได้มากำหนดการเปิดปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเป็นต้น

3.ระบบฟาร์มสัตว์น้ำ โดยการติดตั้งเซนเซอร์วัดค่าของน้ำ เช่น pH ความเป็นกรดด่าง TDS ความใสและตะกอนแขวนลอย

ค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในน้ำแล้วแต่ปัจจัยตัวใดที่ต้องกำหนดค่า หลังจากนั้นนำค่าที่เซนเซอร์ตรวจวัดได้ไปควบคุมอุปกรณ์เพื่อให้ได้ค่าตามต้องการแบบแม่นยำ

คำอธิบายผลิตภัณฑ์หรือบริการและลักษณะกระบวนการทำงาน 

ผลิตภัณฑ์นี้ได้ออกแบบรูปแบบการทำงานโดยมุ่งเน้นไปที่การใช้งานจริงและตอบสนองบริบทของเกษตรกรรมในประเทศไทย ซึ่งมุ่งเน้นกับการพัฒนาระบบ หรือชุดเซ็นเซอร์ที่สำคัญ 7 ด้านโดยทางทีมวิจัยยังไม่ได้มองถึงในส่วนของระบบจักรกลอัตโนมัติ เนื่องด้วยความเป็นจริงนั้นยังคงเป็นไปได้ยาก โดยความสำคัญทางการเกษตร 7 ด้านก็คงยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาให้ครบทั้งหมดซึ่งประกอบไปด้วยส่วนสำคัญดังต่อไปนี้

1. Yield Mapping เป็นส่วนสำคัญในการชี้ให้เห็นถึงผลผลิตของการทำการเกษตรว่าประสบผลสำเร็จมากน้อยเพียงใด ในส่วนของการทำนั้นมีการวัดผลที่หลากหลายรูปแบบแตกต่างกันออกตัวอย่างหนึ่งที่พบได้บ่อยคือการใช้ Image processing เพื่อวิเคราะห์ภาพที่ถ่ายได้จากฟาร์มแล้วนำมาคัดแยกจำนวนผลผลิตที่ได้ด้วยซอฟท์แวร์อีกครั้งหนึ่ง

2. Weather Sensors ในการทำเกษตรกรรมความแม่นยำสูงนั้น สิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องทราบคือสภาพภูมิอากาศเฉพาะแห่ง หรือที่รู้จักกันในชื่อ Micro climate ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อพืชที่ทำการเพาะปลูกเนื่องจากในพื้นที่เพาะปลูกเดียวกันอาจไม่ได้เหมาะสมกับพืชชนิดเดียวกันเสมอไปหากว่าในพื้นที่เพาะปลูกนั้น ๆมี Micro climate ที่แตกต่างกันมาก ตัวอย่างของเซ็นเซอร์ในกลุ่มนี้จะประกอบไปด้วย เซ็นเซอร์วัด อุณหภูมิ ความชื้นในอากาศ, ปริมาณความเข้มแสง, คุณลักษณะของลม และ ปริมาณน้ำฝนสะสม

3 Plant Condition คือเซ็นเซอร์ในส่วนที่ใช้สำหรับตรวจวัดความต้องการของพืชว่า พืชได้รับสิ่งต่าง ๆเพียงพอหรือไม่ ซึ่งในพืชแต่ละชนิดอาจมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป เซ็นเซอร์ในกลุ่มนี้ได้แก่ เซ็นเซอร์วัดความชื้นและอุณหภูมิในดิน, การตรวจวัดแร่ธาตุในดิน และ เซ็นเซอร์วัดความเปียกของใบเป็นต้น

4. Energy ในส่วนนี้อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรมโดยตรง แต่หากจุดประสงค์ของการทำเกษตรกรรมความแม่นยำสูงนั้นเพื่อลดปริมาณค่าใช้จ่าย หรือ ลดภาวะโลกร้อนแล้ว ดังนั้นการจัดสรรพลังงานทางเลือกนับได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

5. Odor Sensors เป็นเซ็นเซอร์ตรวจวัดกลิ่นหรือก๊าซ ซึ่งมีความสำคัญกับการเกษตรบางประเภท เพราะพืชบางชนิดอาจมีความจำเป็นในการควบคุมปริมาณก๊าซในสภาวะแวดล้อมเพื่อให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสม(กรณีที่ควบคุมได้ในโรงเรือนแบบปิด)

6. Fluid Control เป็นเซ็นเซอร์ในการควบคุมของเหลวที่ใช้ในการเกษตรเช่น ระบบรดน้ำและให้ปุ๋ย เพื่อให้มีการทำงานที่ง่ายและสามารถควบคุมหรือประมานการค่าใช้จ่ายสำหรับเกษตรกรอีกทั้งยังสามารถนำไปเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์ต่าง ๆเพื่อเปิดใช้งานร่วมกับระบบได้อีกด้วย

7. Intelligence เปรียบเสมือนสมองในการคิดวิเคราะห์ ซึ่งในการทำระบบ สมาร์ทฟาร์มนั้นระบบที่สร้างความฉลาดนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญมากที่สุด โดยระบบดังกล่าวจะทำการเชื่อมโยงเซ็นเซอร์ต่าง ๆในระบบให้มีการทำงานให้สัมพันธ์กันและควบคุมการทำงานให้มีรูปแบบที่เหมาะสมในงานด้านการเกษตรนั้น ๆ

อุปกรณ์หรือเซ็นเซอร์ที่ถูกติดตั้งโดยทั่วไปแล้วจะเชื่อมต่อถึงกัน ซึ่งรูปแบบการเชื่อมต่อนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบมีสาย หรือแบบไร้สาย และเพื่อจุดประสงค์หลักนั้นคือความสะดวกสบายของเกษตรกรในการบริหารจัดการกับแปลงเพาะปลูกของตนได้จากทุกที่ทุกเวลาดังนั้นระบบดังกล่าวมักนิยมพัฒนาบนฐานเวลาจริงโดยใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ต รวมถึงการแสดงผลที่จะเพิ่มความสะดวกให้แก่ตัวเกษตรกรในการเฝ้าติดตามผ่านทางช่องทางต่าง ๆไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์สมาร์ทโฟน เว็บไซต์ต่าง ๆ นอกจากนั้นยังมีการเก็บข้อมูลย้อนหลังเพื่อนำไปใช้ในการคิดวิเคราะห์อีกด้วย

จากภาพที่ 1. แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างการสร้างระบบ สมาร์ทฟาร์ม ซึ่งในความเป็นจริงสามารถเพิ่มเติมเซ็นเซอร์ต่าง ๆได้อย่างไม่จำกัดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกษตรกรรมที่จะนำระบบไปพัฒนาด้วยนั่นเอง

รูปแสดงชุดเซ็นเซอร์ต่าง ๆที่นำมาใช้งาน

รูปแบบการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ตามการใช้งานของเกษตรกรซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนและเลือกชุดเซ็นเซอร์ได้ด้วยตนเอง

ภาพผลิตภัณฑ์ต้นแบบ   ชุดติดตั้งในระบบแปลงเปิด

เซนเซอร์วัดความเร็วและทิศทางของลม

เซนเซอร์ตรวจวัดปริมาณน้ำฝน

เซนเซอร์ตรวจวัด

ความเข้มของแสง

อุณหภูมิในอากาศ

ความชื้นในอากาศ

ความเข้มของก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์

เซนเซอร์วัดความชื้นในดิน

เซนเซอร์วัดอุณหภูมิในดิน

กล่องชุดควบคุม  ระบบคมนาคม อุปกรณ์เซนเซอร์ และส่งข้อมูล

แผงโซล่าเซลแหล่งพลังงานในระบบ

รายละเอียดของแนวคิดหรือเทคโนโลยีใหม่ (Core Value) ที่ใช้

เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้นี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบ เกษตรอัจฉริยะ ที่บูรณาการทั้งจากเกษตรกรหรือประชาชนทั่วไปที่สนใจ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ

1. Hardware ระบบฮาร์ดแวร์ที่ทำการออกแบบให้สามารถปรับแต่งหรือเปลี่ยนแปลงชุดเซ็นเซอร์ได้โดยง่าย

2. Software ระบบซอฟท์แวร์ที่จะทำการนำเสนอข้อมูลที่ใช้งานร่วมกับระบบปัญญาประดิษฐ์ที่จะคอยช่วยเหลือให้คำแนะนำที่เหมาะสมในการทำการเกษตรนั้นๆ

3. Data คือ ส่วนของการบริหารจัดการข้อมูลที่เป็นการวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่(Big Data)เพื่อให้เกิดการแบ่งปันองค์ความรู้และส่งผลให้เกิดการสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่มีความฉลาดมากยิ่งขึ้น                                                       

ประโยชน์และคุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีต่อผู้ใช้/ลูกค้า

ลูกค้าหรือผู้ใช้บริหารสามารถใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและทำให้เกษตรกรสามารถกำหนดทิศทางของผลผลิตได้ในระดับเบื้องต้นจากเทคโนโลยีที่มีอยู่ในระบบ             

ข้อมูลเพิ่มเติมที่  www.eazyfarm.net

บริษัท อีซี่ฟาร์ม จำกัด

โทร. 065-007-1777

Line : @eazyfarm